ขอขอบคุณข้อมูลและภาพจาก nate.com ,
compgamer หลังจากช่วงก่อนหน้านี้ทางรัฐบาลเกาหลีได้มีการส่งเสริมเรื่องของการควบคุมเวลาการเล่นเกมของเด็กที่อายุต่ำกว่า 16 ปี ไม่ให้เล่นหลังเที่ยงคืนและก่อน 6 โมงเช้า ทำให้ไม่ใช่เพียงตัวเด้กเองที่มีผลกระทบแต่เรื่องของอุตสาหกรรมเกมก็ได้รับการกระเทือนด้วย และด้วยกฎหมายดังกล่าวที่ออกบังคับใช้ ทำให้ในประเทศอีกๆ นอกจากเกาหลีก็เริ่มมีการพูดถึงการควบคุมเวลาเช่นเดียวกัน ซึ่งตรงประเด็นนี้ทำให้สำนักข่าว ABC News ประเทศออสเตรเลีย นำผลวิจัยของสถาบันวิจัยจากมหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ โดยศาสตราจารย์แดเนียล จอห์นสัน ที่เพิ่งมีการวิจัยครั้งล่าสุดมาเผยแพร่ว่า เกมมีอิทธิพลในทางที่ดีแก่เด็กมากกว่าการดูทีวี เพราะเกมสร้างการพัฒนาทางกายภาพให้กับเด็กในการเพิ่มประสิทธิภาพ , การนับถือตนเองและพัฒนาจิตใจของเด็กให้ไปในทางที่ดีขึ้น
นอกจากนี้ผลการวิจัยยังปรากฎว่า ในออสเตรเลียนั้นเด็กอายุ 2-5 ขวบมีการเล่นเกมเกินเวลาที่รัฐกำหนด และยังพบว่า 92% ของบ้านในผลสำรวจนั้น มีเครื่องเล่นเกมแบบพกพา อย่างเช่น iPad ,แท็บเล็ตต่างๆ อีกด้วย โดยทางศาสตราจารย์แดเนียล จอห์นสัน ได้กล่าวว่าเกมไม่ใช่ส่งผลไม่ดีกับเด้กอย่างเดียว แต่ว่าเกมนั้นสามารถสร้างเสริมศักยภาพ ประสิทธิภาพ และพัฒนาจิตใจของเด็กได้ ส่วนเด็กคนไหนที่มีภาวะซึมเศร้าหรือการปวดกล้ามเนื้อหลังจากการนั่งเล่นเกมอย่างเดียว ก็สามารถแก้ไขได้ด้วยการออกกำลังกาย นั่นหมายความว่า การเล่นเกมจนเกินไปก็ไม่ใช่สิ่งดี แต่เกมนั้นไม่ใช่สิ่งที่ไม่ดี
แม้ว่าเรื่องของกฎหมายจะมีผลบังคับใช้ให้จำกัดเวลาเล่นเกมของเด็ก เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาหรือผลกระทบกับการรียนหรือพฤติกรรมเด็ก ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะเราก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเด็กที่เล่นเกมนานเกินไปจะไม่เกิดปัญหาหรือมีแต่ผลดีอย่างเดียว เพราะปัญหาสังคมหรือการทะเลาะวิวาท การพนันก็มี แต่เป็นส่วนน้อย หากเด็กรู้จักการจัดสรรเวลา และรู้จักแยกแยะเป็น เพราะคนที่สร้างเกมขึ้นมาก็คงไม่ได้หวังให้เด็กติดแต่เกมและกลายเป็นปัญหาสังคมจากเกม แต่สร้างเกมเพื่อพัฒนาจิตใจ การให้รู้จักแพ้ชนะ รู้อภัย ให้เกิดความสนุกและการผ่อนคลาย
