แหมมม..ข่าวดีๆก็เหมือนกันนะจ๊ะ เมื่อ
Dr. Kathy Sanford ศาสตราจารย์ มหาวิทยาลัย Victoria ใน British Columbia ใช้เวลา 5 ปีในการศึกษาข้อมูลเชิงลึกเด็กอายุระหว่าง 13 ปี และ 17 ปี ถึงพฤติกรรมของเด็กที่เกี่ยวข้องกับวีดีโอเกม
ใบบทสัมภาษณ์และจดหมายนั้น ดร. แซนฟอร์ด ได้กล่าวไว่ว่าเด็กที่เธอสำรวจดูเหมือนจะเป็นกังวลมากเกี่ยวกับจริยธรรมและคุณธรรมของพวกเขาในการแสดงพฤติกรรมในวิดีโอเกม ดร. แซนฟอร์ด พบว่าวีดีโอเกมช่วยในเรื่องการเปลี่ยนแนวความคิดไปอีกด้านโดยที่ผู้ใหญ่หลายคนนึงไม่ถึง
ยกตัวอย่างเช่นเด็กชายคนหนึ่งเป็นหัวหน้าแคลนในเกม
Guild Wars 2 ตรงนี้ทำให้เขากลายเป็นคนมีความมั่นใจมากขึ้นและช่วยในการพัฒนาทักษาด้านการติดต่อสื่อสารกับบุคคลอื่น (ไม่ต่างกับหัวหน้ากิลในไทยที่ต้องดูแลคนในแคลน) อย่างในชั้นเรียนเขาได้โชว์ผลงานที่หน้าห้องซึ่งเป็นประวัติศาสตร์เนื้อหาภายในเกม เด็กทุกคนในชั้นเรียนกลับให้ความสนใจเป็นอย่างมากและหลังจากนั้นทุกคนก็ยอมที่จะไปซื้อหนังสือประวัติศาสตร์จริงๆที่ตัวเกมอ้างอิงไว้มาอ่าน
ทีนี้เราลองมาพูดถึงเกมแนว FPS ดูบ้าง ดร. แซนฟอร์ด ได้บอกไว้ว่าเกมเหล่านี้มันไม่ใช่แค่วิ่งไปรอบๆแล้วยิงๆก็จบไป แต่มันช่วยให้ผู้เล่นนั้นต้องเจอกับการแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าและยิ่งกับเกมที่มีระบบทีม(แข่งขันแบบเล่น 5 คน)จะทำให้ผู้เล่นรู้ทั้งจุดแข็งและจุดอ่อนและการทำงานร่วมกันของทีม พร้อมทั้งได้เจอสถานการณ์การใช้ความคิดในการแก้ปัญหาปัญหาต่างๆซึ่งสามารถประยุกต์ใช้กับชีวิตจริงได้
ซึ่งการค้นพบนี้น่าจะตอบโจทย์ได้ว่าเราได้รับสิ่งที่ดีหลายๆส่วนในเกมนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นเกมแนวไหน ปัจจุบันโลกได้ปรับเปลี่ยนไปตามการเวลา ซึ่งวีดีเกมในปัจจุบันไม่ได้เป็นเพียงแค่เกมเล่นเพื่อสนุกสนานอีกต้อไป แต่สามารถพัฒนาสมองและความคิดต่างๆให้มนุษย์มีทักษะต่างๆมากขึ้น
RealEsports ก็รู้สึกดีที่มีผลงานวิจัยดีๆแบบนี้ออกมา ทำให้ผู้ใหญ่หลายๆคนรู้สึกเปิดใจและเห็นถึงประโยชน์ของเกมบ้าง...