รีวิว Hero of the Obelisk เกม Action MMORPG ตะลุยดันเจี้ยนสุดแอ็บแบ๊ว น่ารักสุดๆ

ผู้เขียน หัวข้อ: รีวิว Hero of the Obelisk เกม Action MMORPG ตะลุยดันเจี้ยนสุดแอ็บแบ๊ว น่ารักสุดๆ  (อ่าน 2215 ครั้ง)

joliez

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2112
  • พลังน้ำใจ: 14
    • ดูรายละเอียด

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพจาก igameth

  เริ่มต้นเดือนใหม่พร้อมเกมใหม่มากมายทั้งในและต่างประเทศก็เริ่มเปิดให้บริการกันแล้ว สำหรับใครที่มองหาเกมส์ใหม่ในต่างประเทศเล่นอยู่วันนี้เรามาทำความรู้จักกับเกม Hero of the Obelisk หรือที่รู้จักกันในชื่อ Dungeon Hero หลังจากเปิดทดสอบ CBT ในช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา กระแสตอบรับจากผู้เล่นทั่วโลกถือว่าดีเลยทีเดียว ซึ่งผมเองก็ไม่พลาดที่จะเข้าร่วมทดสอบกับเขาด้วยเลยนำภาพบรรยากาศและรายละเอียดข้อมูลภายในเกมมารีวิวให้เพื่อนๆที่สนใจได้รับชมกันครับ

Hero of the Obelisk เป็นเกม MMORPG ผลงานของสตูดิโอ Eyasoft จากประเทศเกาหลี ตัวเกมออกแนวแฟนตาซีน่ารักสดใสคล้ายกับเกม Luna Online และ Legend of Edda เนื้อเรื่องของเกมถูกเซ็ตขึ้นในทวีปที่มีชื่อว่า Abate ดินแดนที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายที่เกิดจากเหล่ามอนสเตอร์และดันเจี้ยนมากมายที่เต็มไปด้วยความลึกลับที่ท้าทายให้ผู้เล่นพิสูจน์ความกล้าผสมผสานการต่อสู้แบบ Hack & Slash ได้อย่างสนุกสนาน

การสร้างตัวละครนั้นไม่มีการล็อคเพศ ผู้เล่นสามารถเลือกปรับแต่งตัวละครได้อย่างอิสระในสไตล์ที่ตัวเองต้องการ โดยหนึ่งไอดีสามารถสร้างตัวละครได้สูงสุด 5 ตัวด้วยกัน ประกอบไปด้วย 3 อาชีพหลัก ได้แก่ Swordsman, Adventurer และ Scholar แต่ละอาชีพจะมีความสามารถในการต่อสู้ที่แตกต่างกันออกไป เมื่อถึงระดับเลเวลที่กำหนดสามารถเปลี่ยนเป็นสายอาชีพที่สูงขึ้นได้



1.Swordsman อาชีพนักดาบมาพร้อมกับความแข็งแกร่งด้ายค่า Vit และ Str สูง โจมตีในระยะประชิดสามารถเลือกใช้อาวุธประเภทดาบได้อย่างหลากหลายทั้งยังทำหน้าที่เป็นตัวแท้งค์อึดถึกทนให้ผู้เล่นในปาร์ตี้เดียวกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อเลเวลถึงระดับที่กำหนดสามารถเปลี่ยนเป็นอาชีพสูงขึ้นได้ 2 อาชีพ ได้แก่ Fighter และ Warrior

Fighter :: กวัดแกว่งด้วยดาบใหญ่ 2 มือได้อย่างดุดันและรุนแรงนำไปสู่อาชีพขั้นสูง Gladiator >> Conqueror
Warrior :: เน้นความสมดุลของการใช้ดาบและโล่มีความแข็งแกร่งในด้านพลังป้องกันแต่โจมตีปานกลางนำไปสู่อาชีพขั้นสูง Knight >> Guardian



2.Adventurer อาชีพมือปืนมีความว่องไว โจมตีระยะไกลได้อย่างแม่นด้วยค่า Dex สูง ด้วยค่าความสามารถที่ค่อนข้างสมดุลกันทำให้อาชีพนี้มีความว่องไวในการต่อสู้และหลบหลีกได้อย่างดี ใช้อาวุธประเภทปืน เมื่อเลเวลถึงระดับที่กำหนดสามารถเปลี่ยนเป็นอาชีพสูงขึ้นได้ 2 อาชีพ ได้แก่ Hunter และ Technician

Hunter :: นักล่าที่พกความแม่นยำมาเกินร้อยด้วยอาวุธปืนไรเฟิลที่ไม่เคยพลาดเป้า โจมตีระยะไกลได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงนำไปสู่อาชีพขั้นสูง Sniper >> Stalker
Technician :: ปืนคู่มีความสามารถในการโจมตีที่รวดเร็วและว่องไวในการต่อสู้นำไปสู่อาชีพขั้นสูง Engineer >> Tech-miester


3.Scholar อาชีพนักเวทย์ผู้มีพลังเวทย์มนต์ธาตุดิน ไฟ น้ำแข็ง ที่สามารถโจมตีได้อย่างรุนแรงด้วยค่า Int ที่สูงด้วยการโจมตีในระยะไกลและเป็นกลุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมีทักษะที่ช่วยฟื้นฟูค่าต่างๆให้แก่ตัวเองและผู้เล่นภายในปาร์ตี้ แต่มีเกราะป้องกันที่ต่ำมาก เมื่อเลเวลถึงระดับที่กำหนดสามารถเปลี่ยนเป็นอาชีพสูงขึ้นได้ 2 อาชีพ ได้แก่ Sorcerer และ Cleric

Sorcerer :: เน้นการใช้เวทย์มนต์ในการโจมตีด้วยธาตุต่างๆได้อย่างรุนแรงนำไปสู่อาชีพขั้นสูง Mage >> Archmage
Cleric :: เน้นการใช้เวทย์มนต์ด้านสนับสนุนในการฟิ้นฟูค่าต่างๆให้แก่ตัวเองและผู้เล่นอื่นๆนำไปสู่อาชีพขั้นสูง Priest >> Archpriest




รูปแบบการเล่นเหมือนเกม MMORPG ทั่วไปในปัจจุบัน การควบคุมตัวละครใช้ปุ่ม W A S D หรือ Mouse ในการเคลือนที่ ปุ่ม Space กระโดด และปุ่ม E เก็บของ การต่อสู้เป็นแบบล็อคเป้าหมาย โดยผู้เล่นทุกคนจะถูกวาปมายังเมืองหลักที่เต็มไปด้วย NPC พร้อมภารกิจมากมาย ส่วนใหญ่จะเน้นการลงดันเจี้ยนเป็นพิเศษ สังเกตได้จากเควสที่เราได้รับจาก NPC ซึ่งดันเจี้ยนจะมีระดับเลเวลที่แตกต่างกันออกไป โดยรายละเอียดของดันเจี้ยนจะแสดงค่า #Rank 1-5 ของผู้เล่นที่ทำเวลาได้ดีที่สุด เราสามารถเลือกลุยคนเดียวหรือเป็นปาร์ตี้ก็ได้เช่นกัน แต่ใช่ว่าเราจะลงแต่ดันเจี้ยนเสมอไป เพรายังมีแผนที่แบบ Open World ทั่วไปให้เราออกไปผจญภัยด้วย แต่ผู้ที่จะออกไปได้นั้นต้องมีเลเวลถึงระดับที่ได้กำหนดไว้



ซึ่งในระหว่างต่อสู้นั้นเราไม่จำเป็นต้องกดสกิลเสมอไป หากเราเจอเป้าหมาย 1 ต่อ 1 สามารถโจมตีธรรมดาก็ได้สำหรับคนที่ขี้เกียจกดใช้สกิล จากที่ผมเองสังเกตสกิลส่วนใหญ่จะเน้นสร้างความเสียหายเป็นวงกว้างเพราะในขณะที่เราลงดันเจี้ยนจะมีมอนสเตอร์มากมายกรูกันเข้ามารุมคุณอย่างเมามันส์ แต่มันก็ช่วยเพิ่มความสนุกให้เราด้วยเช่นกัน ส่วนสกิลต่างๆนั้นสามารถซื้อคัมภีร์จาก NPC ได้ตามระดับเลเวลที่กำหนดเพื่ออัพเกรดและเรียนรู้ทักษะใหม่

รวมไปถึงระบบสกิลที่เรียกว่า Passive Skills เป็นสกิลติดตัวที่สามารถเรียนเสริมเพิ่มได้อีกนอกจากสกิลที่ติดมากับสายอาชีพเหมือนเป็นสกิลดำรงชีพทำให้ตัวละครของแต่ละคนมีความสามารถที่เพิ่มมากขึ้น แต่กว่าจะเรียนรู้ได้นั้นต้องมีเลเวลระดับ 10 ขึ้นไป โดยจะแบ่งออกเป็น 3 สายแตกต่างกันออกไป





ในส่วนของระบบอื่นอย่างโหมด PvP สามารถจัดทีมตั้งแต่ 2 - 4 คนขึ้นไป เพื่อเข้าสู่ต่อสู้กับทีมอื่นๆ ทีมผู้ชนะจะได้รับคะแนนและของรางวัลหรือพ้อยใช้จับจ่ายใช้สอยซื้อไอเทมใหม่ๆ รวมไปถึงการจัดอันดับ (Ranking), Siege Battle สงครามกิลด์แย่งชิงปราสาทที่รองรับผู้เล่นได้ถึง 200 คน และระบบ PK System จะอยู่ในพื้นที่ที่ผู้เล่นทุกคนสามารถต่อสู้กันได้โดยไม่ต้องขออนุญาติล่วงหน้า นอกจากนี้ยังมีระบบตกปลา ระบบตีบวกไอเทม ซึ่งในส่วนนี้ผมเองจะมาทำไกด์แนะนำในภายหลัง

ซึ่งจากที่ได้เข้าร่วมทดสอบอย่างที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นว่าตัวเกมมีกลิ่นอายของเกม Luna Online และ Legend of Edda รวมอยู่ด้วยกันที่บ่งบอกเอกลักษณ์ของทางผู้พัฒนาได้อย่างดี ทั้งรูปแบบของตัวละครน่ารักสดใส แฟชั่นเครื่องแต่งกาย ภาพกราฟฟิกเสียงแบ๊วเหลือขนาด และระบบอีโมชั่นแสดงท่าทางที่มีให้เลือกใช้มากมายไม่ว่าจะเป็นท่าเต้นจากเพลงอิตชื่อดัง อาทเช่น Tell Me และ Gangnam Style ซึ่งผมเองชอบมากนั่งเล่นแต่อีโมชั่นจนไม่ได้เก็บเลเวลกันเลย



สำหรับเพื่อนๆที่สนใจ Hero of the Obelisk หรือ Dungeon Hero สามารถเข้าไปสมัครและดาวน์โหลดเกมได้ที่เว็บไซต์: http://hoto.gbegames.com/ โดยจะเปิดทดสอบช่วง CBT เพียง 2 รอบเท่านั้น และจะเปิด Open Beta อย่างเป็นทางการภายในเดือนนี้