รีวิว Dead Space 3

ผู้เขียน หัวข้อ: รีวิว Dead Space 3  (อ่าน 4967 ครั้ง)

joliez

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2112
  • พลังน้ำใจ: 14
    • ดูรายละเอียด
รีวิว Dead Space 3
« เมื่อ: 01 มีนาคม, 2013, 09:49:34 am »

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพจาก otacom

     นับตั้งแต่การเปิดตัวความสยองในภาคแรกกับเกมอย่าง Dead Space เมื่อราวๆ 4 ปีที่แล้ว มันคือหนึ่งในเกมที่ทำแฟนเกมแนว Action Survival Horror หลายๆคนนั่งยิ้มแก้มปริสยดสยองไปกับก้าวใหม่ของเกมแนวนี้แทนที่ เกมยิงซอมบี้ตัวต้นกำเนิดอย่าง Resident Evil จากทาง Capcom ที่นับวันๆยิ่งกลายพันธุ์เหมือนโดนเชื้อไวรัสไปซะจนกู่ไม่กลับ แต่ Dead Space 1-2 นั้นกลับเป็นซีรี่ย์ด้วยการมอบความสยองในแบบที่แฟนๆเกมต้องการได้ด้วยรูปแบบการเล่นที่ถูกพัฒนามาเป็นอย่างดีพร้อมเนื้อเรื่องชั้นเยี่ยมที่ทำให้เหล่าเกมเมอร์ท้งหลายต้องมานั่งถกกันถึงปริศนาต่างๆที่ตัวเกมทิ้งไว้ มันจึงกลายเป็นหนึ่งในซีรี่ย์ที่น่าจะเป็นซีรีย์ที่จะมีคนจำจดไปอีกหลายปี แต่กับการมาของ Dead Space 3 นั้นมันอาจจะเป็นเค้าลางของหายนะของซีรี่ย์นี้ก็เป็นได้ นับตั้งแต่การเปิดตัวด้วยเกมเพลย์แอ๊คชั่นเต็มสูบ ที่ทำเอา Isaac Clarke ตัวเอกของเรากลายเป็น Macus Fenix จาก Gears of War ด้วยการเดินหน้ายิงเหล่าเนโครโมอร์ฟแบบปะฉะดะ ระบบ Cover System ระบบการกลิ้งหลบศัตรูและอาวุธอันทรงพลังยิ่งกว่าที่เคยมี พร้อมด้วยระบบ Co-op ที่ทำเอาความสยองหมายไปหมดแทนที่ด้วยเพื่อนร่วมทีมสุดทึ่มที่เอาแต่ใจ ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่เราจะได้เจอใน Dead Space ภาคนี้ แต่มันอาจจะมีดีกว่าที่คุณคิดก็เป็นได้


     เรื่องราวใน Dead Space 3 นั้นยังคงเป็นเรื่องราวความซวยซ้ำซวยซ้อนของ Isaac Clarke วิศวกรหนุ่มผู้รอดชีวิตจากยาน USG Ishimura และสถานีอวกาศ Titan ที่ในภาคนี้เขาจะต้องออกเดินทางอีกครั้งเพื่อปกป้องมนุษยชาติจากภัยของ The Marker หลังจากอดีตแฟนสาวของเขา Ellie พบเบาะแสบางอย่างที่อาจจะเป็นหนทางที่จะหยุดยั้งมหันตภัยนี้ได้บนดาวดวงหนึ่งก่อนที่ตัวเธอจะหายสาปสูญไป และแน่นอนว่าพ่อหนุ่ม Isaac นั้นเป็นกุญแจเดียวที่จะไขปริศนาทั้งหมดของ The Marker


     การเล่าเรื่องในเกมนั้นยังคงทำได้ตามมาตรฐานเดียวกับเกมภาคก่อนหน้าทั้ง 2 ภาค โดยในภาคนี้นั้นจะมีการเล่าเรื่องที่ดูมีความเป็นภาพยนต์มากขึ้นทั้งฉากการสนทนาต่างๆและฉากคัทซีนนั้นตัวเกมเรียกได้ว่าจัดเต็ม ไม่มีมีแป้วผลายตลอดทั้ง 19 Chapter ของตัวเกม แต่ด้วยการทั่นยังคงอิงมาตฐานเดิมในหลายๆส่วนทำให้ตัวเกมนั้นออกมาในรูปแบบของความซ้ำซากอยู่บ่อยครั้ง มุกบางมุดคุณเคยเจอมาแล้วนับ สิบๆเที่ยวในเกมภาคก่อนแต่ในภาคนี้คุณจะเจอมากกว่า 2 ภาคก่อนหน้าเสียอีก ซึ่งทำให้ตัวเกมในช่วงกลางๆนั้นดูค่อนข้างกร่อยและไม่ชวนน่าติดตามเท่าใดนัก ซึ่งอาจจะเป็นเพราะการใส่องค์ประกอบของการเล่นในรูปแบบ Co-op เข้ามา ซึ่งเนื้อเรื่องนั้นจะเดินเรื่องแตกต่างจากโหมดเล่นเดี่ยวค่อนข้างมาก ทำให้ทีมงานเองก็ต้องแทงกั๊กในส่วนเนื้อเรื่องของตัวเกมในช่วงกลางเรื่องทั้งคู่ทำให้ตัวเกมมันไม่สุดไปในทางใดทางหนึ่ง (ฟังจากหลายๆเสียงของผู้เล่นและหลายๆสื่อเห็นพ้องต้องกันว่าเนื้อเรื่องที่สมบูรณ์จริงๆคือเนื้อเรื่องในโหมด Co-op) แต่ยังดีที่เนื้อเรื่องหลักต่างๆของตัวเกมนั้นสามารถปูไปถึงช่วงตอนจบได้อย่างยอดเยี่ยม


     แม้ว่าในภาคนี้ตัวเอกของเราจะได้รับการอัพเกรดความสามารถจากภาคเดิมมากมาย ทั้งการเคลื่อนไหวต่างๆที่ลื่นไหลอาวุธที่หลากหลาย แต่นั่นไม่ได้แปลว่าตัวเกมจะมีความง่ายกว่าภาคที่ผ่านๆมา เพราะในภาคนี้เหล่าเนโครมอร์ฟศัตรูตัวฉกาจของเราก็ได้รับการอัพเกรดความสามารถด้วยเช่นกัน ซึ่งศัตรูในภาคนี้จะมาพร้อมกับความเร็วอันน่าสะพรึงกว่าที่ผ่านๆมาจุดอ่อนของมันอย่างพวกข้อต่อต่างๆนั้นถูกทำให้เล็งได้ยากขึ้น และความสยองที่ถูกแทนที่ด้วยปริมาณเข้าว่าทำให้การต่อสู้ในภาคนี้เป็นอะไรที่ยากลำบากกว่าที่เคยเป็นอย่างสิ้นเชิง


     ในส่วนของการคราฟท์อาวุธที่ทางนักพัฒนาคุยนักคุยหนาว่าสามารถคราฟท์อาวุธได้หลายรูปแบบ สุดท้ายแล้วก็ไม่ได้หลากหลายเท่าใดนักเพราะคุณไม่สามารถแบกอาวุธไปกับคุณได้น้อยลง ตัวเลือกในการอัพเกรดต่างๆนั้นกว่าจะได้มาก็ต้องผ่านเงิ่อนไขมากมายทำให้สุดท้ายแล้วคุณก็ใช้อยู่ไม่กี่อย่างเหมือนเดิม แต่ด้วยการนำระบบ Universal Ammo มาใช้ทำให้คุณไม่ต้องกังวลกับจำนวนกระสุนของปืนแต่ละชนิดอีกต่อไป ซึ่งทำให้คุณสะดวกใจที่ใช้อาวุธชนิดอื่นๆที่ไม่ใช่ Plasma Cutter มากขึ้น


     ในส่วนของกราฟฟิคเองนั้นตัวเกมกังคงอารยธรรมจากภาคก่อนๆมาทั้งกระบิแต่มีการปรับเพิ่มเอ็ฟเฟคบางอย่างนิดหน่อยให้มันกินสเป็คมากขึ้นแต่ไม่ได้ให้มาซึ่งผลลัพธ์ที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าเท่าที่ควร แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องชมจากใจคือภาพบรรยกาศต่างของเกมนั้นดูสวยงามจริงๆโดยเฉพาะภารกิจในช่วงแรกที่เราได้ออกไปเล่นกันบนท้องอวกาศ ที่เต็มไปด้วยซากยานต่างๆ รวมไปถึงสภาพพื้นผิวต่างๆของดาวดวงใหม่ Tau Volantis ดาวที่ถูกปกคลุมปด้วยหิมะที่ออกแบบมาได้ดีทีเดียว


     สุดท้ายแล้ว Dead Space 3 นั้นอาจจะเป็นการเปลี่ยนแปลงในหลายๆอย่างที่ใครหลายคนต่างพากันยี้ แต่ตัวเกมเองก็ยังมีคุณงามความดีอันหลงเหลือจากภาคก่อนๆอยู่เยอะทำให้มันยังสามารถสร้างความบันเทิงให้กับผู้เล่นได้ในระดับหนึ่งแม้จะมีการเพิ่มในส่วนของ Co-op เข้ามาก็จริงแต่มันยังไม่ใช่อะไรที่แฟนเกมในซีรี่ย์นี้ต้องการ ทำให้ในส่วนของความสดใหม่หลายๆอย่างที่เราเคยได้รับกันเหมือนสวนสนุกอย่าง Dream World ที่เราเล่นกันซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนเริ่มเบื่อเครื่องเล่นทุกชิ้นโดยไปหมดแล้วนั่นเอง