(Review) StarCraft II: Heart of the Swarm

ผู้เขียน หัวข้อ: (Review) StarCraft II: Heart of the Swarm  (อ่าน 6468 ครั้ง)

joliez

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2112
  • พลังน้ำใจ: 14
    • ดูรายละเอียด
(Review) StarCraft II: Heart of the Swarm
« เมื่อ: 14 มีนาคม, 2013, 02:18:01 pm »





ขอขอบคุณข้อมูลและภาพจาก gamingdose

     นับเป็นเวลากว่า 3 ปี แล้วหลังจาก Starcraft II: Wings of Liberty ออกวางจำหน่าย การต่อสู้ของเหล่าผู้บัญชาการกองทัพทั้ง 3 เผ่าพันธุ์ดำเนินไปอย่างดุเดือดต่อเนื่องมายาวนานในโหมด Multiplayer และ Tournament การแข่งขันรายการต่างๆทั่วโลก  หลายคนรอคอย หลายคนยังสงสัย แต่ไม่ว่าคุณจะรู้สึกยังไงวันนี้ภาคเสริมตัวแรกของ StarCraft II ก็ออกวางจำหน่ายให้ผู้เล่นได้สัมผัสกันแล้วทั่วโลก ลองไปชมกันเลยดีกว่าว่า “ดวงฤทัยแห่งฝูง” เป็นยังไง


For I am the Queen of Blades

     เรื่องราวในภาค Heart of the Swarm จับเอาเนื้อหาหลังเหตุการณ์ในภาค Wings of Liberty มาเล่าต่อทันที เวลาผ่านไปนานกว่า 2 ปีแล้วหลัง Jim Raynor ช่วยชีวิตและทำให้ Sarah Kerrigan อดีตราชินีแห่งฝูง Zerg กลับกลายร่างคืนเป็นมนุษย์ได้อีกครั้ง  แต่การต่อสู้ของพวกเขายังไม่จบลงง่ายๆ ภัยร้ายครั้งใหม่และศัตรูเก่าที่มี การต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไป

     เนื้อหาส่วนใหญ่ของ Heart of the Swarm จะวนเวียนอยู่กับการ ก้าวขึ้นสู่พลังอำนาจอีกครั้งของ Kerrigan ในฐานะ Queen of Blades และปิดบัญชีแค้นกับศัตรูคู่อาฆาตจักรพรรติ Mengsk ตัวร้ายก่อนจะเชื่อมโยงส่งไม้ไปยังเนื้อหาหลักจริงๆที่จะต้องปิดฉากในตัวเสริมสุดท้ายอย่าง  Legacy of the void

     ผมจะไม่ขอพูดถึงส่วนของเนื้อเรื่องมากไปกว่านี้เพื่อไม่ให้เป็นการ Spoil อะไรมาก แต่สิ่งที่ยังคงต้องชมและยอมรับ Blizzard ว่ายังทำได้ดีเหมือนเดิมก็คือการนำเสนอเนื้อหา บทพูด เพลง ฉาก CG ต่างๆนั้นยอดเยี่ยมตามตำหรับ Blizzard เช่นเดิม



For The Swarm

     Gameplay หลักของเกมก็ยังคงเป็น StarCraft ที่เราคุ้นเคย ที่แปลกแตกต่างออกไปในโหมดเนื้อเรื่องหลักนั้นก็เห็นจะเป็นการนำเสนอที่แตกต่างจาก Wings of Liberty อย่างเห็นได้ชัด เพราะในขณะที่ Jim Raynor ของเราเป็นผู้นำกองกำลังต่อต้านที่มีลูกน้อง เพื่อนร่วมทีม และยานรบ หุ่นยนต์   Kerrigan ของเรานั้นเป็นราชินีของ Zerg อย่างเต็มตัวเต็มภาคภูมิและ Blizzard ก็นำเสนอมันออกมาในรูปของลูกเล่นหลากหลายรูปแบบ

     อย่างแรกก็คือในภารกิจส่วนใหญ่แทบทั้งเกมผู้เล่นจะได้บังคับ Kerrigan ออกสู่สนามรบพร้อมกับ Unit Zerg ตัวอื่นๆ Kerrigan ภายในเกมนั้นทรงพลังเอามากๆ ถึงขนาดที่ว่าสามารถเปลี่ยนรูปเกมได้ด้วยตัวคนเดียวยิ่งเมื่อเล่นไปหลังๆเมื่อ Level ของเธอเพิ่มสูงมากขึ้น Skill ต่างๆของเธอก็จะยิ่งทรงพลัง การได้รับ Level ของเธอนั้นก็จะได้จากการทำภารกิจรองตามด่านต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมักจะเป็นการไปทำลายเป้าหมายนอกเหนือจากเป้าหมายหลักนั่นเอง



     นอกจากตัว Kerrigan แล้ว ลูกเล่นอีกอย่างก็คือการวิวัฒนาการของเหล่า Zerg ผู้เล่นจะได้เลือกพัฒนาสายพันธุ์ Zerg รูปแบบแปลกๆเมื่อเล่นไปจนถึงด่านที่กำหนดและเล่นภารกิจที่เรียกว่า Evolution Mission ผ่าน  ยกตัวอย่างเช่น Zergling ธรรมดา ซึ่งสามารเลือกพัฒนาให้มีจำนวนมากยิ่งขึ้น หรือ สามารถกระโดดขึ้นลงหน้าผาเข้าโจมตีศัตรู ซึ่งการอัพเกรดนี้จะมีผลแบบถาวรไปตลอดทั้งเกมและผู้เล่นจะต้องตัดสินใจเลือกเอาสายพันธุ์เดียว (เช่นเดียวกับการเลือกอัพเกรด Unit ต่างๆของเกมภาคที่แล้ว)

     ในส่วนของการนำเสนอภารกิจนั้นก็ยังคงมาตรฐานที่หลากหลายและเล่นสนุกไว้เช่นเดิมครับ แต่อาจจะน้อยบ้างหากเทียบกับตัวเกมภาคหลักที่มี Mission เจ๋งๆเยอะกว่า ส่วนใหญ่ภารกิจใน Heart of the Swarm จะออกแนว เดินหน้าฆ่าแหลกตาม Style Zerg เรียกได้ว่ามาเป็นล้านเพื่อถล่มศัตรูซึ่งก็สมกับอารมณ์การเล่นเป็น Zerg ดีครับ ใครเบื่อหน่ายการเล่นเป็น Hero คอยกันฐานจากฝูง Zerg อยากเปลี่ยนอารมณ์บ้างก็ลองมาสัมผัสในภาคนี้ดูครับผม


     ลูกเล่นการนำเสนอจุดพักระหว่าง Mission นั้นก็ดูลดน้อยถอยหลงไป เพราะ Kerrigan นั้นมีปฏิสัมพันธ์กับเหล่า Zerg ข้างกายของเธอเพียงไม่กี่คน ตรงข้ามกับ Raynor ที่มียานทั้งลำพร้อมลูกเรือให้สำรวจ ภารกิจต่างๆนั้นก็ไม่มีให้เลือกทำอีกแล้วครับในภาคนี้ ส่วนตัวเลือกต่างๆที่ส่งผลกับเนื้อเรื่องก็หายไปแล้วเช่นกัน

     โดยสรุปแล้วในโหมดผู้เล่นเดี่ยวนั้น ส่วนที่ต้องชมก็คือการนำเสนอที่บางส่วนอาจจะดูลดน้อยถอยลงเมื่อเทียบกับภาคก่อน แต่ อารมณ์ร่วมความรู้สึกต่างๆนั้นทำออกมาได้ดี  เล่นแล้วรู้สึกว่านี่แหละคือ Zerg นี่แหละคือ Queen of Blades จุดที่น่าสนใจคือเราจะได้เห็นความคิด แนวทาง ของเหล่า Zerg ในแบบที่ลึกขึ้นไปอีกขั้น จากฝูงปีศาจกระหายเลือดที่เราคุ้นเคยเล่น Heart of the Swarm แล้วอาจจะเปลี่ยนใจมารัก Zerg ก็เป็นได้ครับ ฮาๆ

ตัวเกมนั้นมีภารกิจหลักทั้งหมด 20 ภารกิจ ความยาวตั้งแต่ต้นจนจบประมาณ 9-10 ชั่วโมงได้ครับ


The End War

     ส่วนของโหมดผู้เล่นหลายคนนั้นก็มีการปรับปรุงเช่นกัน ทั้งในรูปแบบของ UI แบบใหม่ เพิ่มระบบ Level ซึ่งยิ่งเล่นมากก็ยิ่งปลดล็อคของรางวัลประเภท รูปประจำตัว ลายกองทัพ  Animation ของ Unit  สำหรับใครที่คุ้นเคยกับความโหดของเหล่าผู้เล่นของเกมนี้อยู่แล้วก็บอกได้เลยว่ายังโหดเหมือนเดิมครับ StarCraft  ไม่ใช่เกมสำหรับเล่น ชิวๆ มาตั้งแต่ยุคไหนอยู่แล้ว อย่าหวังว่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลง ฮาๆ

     สิ่งสำคัญที่เพิ่มเข้ามาก็คือ Unit ใหม่ๆของทั้งสามฝ่าย รวมไปจนถึงการอัพเกรด Skill ความสามารถของ Unit เก่าๆหลายตัวด้วยเช่นกัน ทั้ง Unit และ Skill ใหม่ๆที่เพิ่มเข้ามาถือได้ว่าทำให้ผู้เล่นจะได้คิดค้น Build และ Tactic ใหม่ๆอีกหลายรูปแบบครับ งานนี้ไม่ว่าจะเป็นผู้เล่นฝ่ายไหนผมเชื่อว่าคุณจะมีของเล่นถูกใจไว้ใช้งานอย่างแน่นอน



Vengeance shall be mine…

     สรุปสุดท้าย Heart of the Swarm ก็ยังคงสูตรสำเร็จตายตัวแบบเดิมของ StarCraft และ Blizzard ไว้เช่นเดิมครับ มันมีโหมดผู้เล่นเดี่ยวที่สนุก  ทั้งไอเดียของ Gameplay การนำเสนอ ภาพ เสียง ดนตรีประกอบ เนื้อเรื่อง ทุกอย่างยังยอดเยี่ยมเหมือนเคยครับ ถ้าเล่นภาค Wings of Liberty แล้วสนุก ก็ไม่ควรพลาดภาคนี้ไปเช่นกัน ถึงแม้จะมีบางอย่างดูถูกตัดทอนลงไปบ้างหากเทียบกับภาคที่แล้ว แต่ก็มีลูกเล่นใหม่ๆเข้ามาทดแทน

     สำหรับ Pro Player ที่กะซื้อมาเล่นถลุงกันต่ออยู่แล้วคงไม่ต้องพูดอะไรมาก แต่สำหรับผู้เล่นทั่วไปที่ไม่สนใจโหมดผู้เล่นเดี่ยวหรือคิดว่าแค่ Singleplayer อาจไม่คุ้ม งานนี้อาจจะต้องหนักใจกันหน่อยเพราะโหมดผู้เล่นหลายคนก็ยังคงมาตรฐานความโหดไว้เช่นเดิม  แต่ถ้าเป็นผู้เล่นที่คุ้นเคยกับ Starcraft ดีอยู่แล้วและอยากลองลูกเล่นของ Unit ใหม่ๆอย่างเดียวตรงนี้อาจต้องชั่งใจกันหนักหน่อยครับ


ข้อดี คงมาตรฐาน Blizzard ไว้เช่นเดิม , ได้อารมณ์การเป็น Zerg แบบเต็มรูปแบบ,  เพิ่มเติมปรับปรุงทุกส่วนจากภาคหลัก
ข้อเสีย ดูด้อยกว่าบางด้านหากเทียบกับภาคหลัก, ยังเป็น StarCraft เหมือนเดิม, ดูแพงหากซื้อมาเล่นแต่เนื้อเรื่องหลัก

สรุป  ยังยอดเยี่ยม ด้วยเนื้อหา มาตรฐาน และคงความเป็น StarCraft ไว้เช่นเดิม

Score 8/10